ปัจจุบันการขายของออนไลน์สามารถสร้างรายได้มหาศาลและยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ ทำให้ใครหลายคนหันมาสนใจการขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถทำได้ที่บ้านและไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากมายนัก แต่บางคนก็อาจจะไปไม่รอดเพราะการแข่งขันสูง ซึ่งอันที่จริงแล้วการขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากอย่างที่กลัว ดังนั้นก่อนลงสู่สนามนี้ต้องมีจุดเริ่มต้นที่ดีและมั่นคงก่อน หากอยากขายของออนไลน์แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ลองเริ่มต้นจากเทคนิคเหล่านี้กันได้เลย

การเลือกสินค้ามาขายออนไลน์

สิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะเป็นตัวชูโรงสร้างยอดขายให้กับร้านค้า คือ ‘การเลือกสินค้า’ เพื่อมาขายในช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะ หากเลือกสินค้าที่ได้รับความนิยมหรือเป็นที่ต้องการในตลาดอยู่แล้วก็จะทำให้ยอดขายดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกสินค้าที่ตนเองมีความชอบและมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าในระดับหนึ่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ควรพิจารณาความพร้อมของตนเองด้วย หากมีพื้นที่และความพร้อมเพียงพอก็สามารถเลือกสินค้ามาเก็บสต็อกไว้และทยอยปล่อยขายได้ วิธีนี้จะทำให้สามารถควบคุมกระบวนการ บริหารต้นทุนและเวลาของตนเองได้ หรือหากไม่มีพื้นที่และไม่พร้อมลงทุนระยะยาวก็สามารถเลือกเป็นตัวแทนขายของออนไลน์ได้ เพียงแต่ต้องสร้างความแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามราคาและให้ร้านค้ามีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

เลือกช่องทางขายของออนไลน์

เมื่อสามารถเลือกสินค้าหรือบริการที่จะนำมาขายแล้ว ต่อมาจะต้องพิจารณาช่องทางการขายที่เหมาะกับสินค้าประเภทนั้นๆ เพราะแต่ละแพลทฟอร์มมีรูปแบบการขาย ฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น Facebook Instagram หรือ E-Commerce อย่าง Lazada Shopee Amazon หรือ eBay เป็นต้น โดยจะต้องศึกษาเครื่องมือของแต่ละแพทฟอร์มให้รอบคอบ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเลือกจุดขายสินค้า การนำเสนอและวิธีโฆษณาได้อย่างตรงจุด

คำนวณต้นทุนและตั้งราคาขาย

หลังจากได้สินค้าและเลือกช่องทางสำหรับการขายได้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นจุดที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนพลาดคือการคำนวณต้นทุน หลายคนคิดต้นทุนเฉพาะค่าสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ดันลืมคิดค่าบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรง ฯลฯ ทำให้ทุนหายกำไรหดแบบไม่รู้ตัว ซึ่งการคำนวณต้นทุนอย่างรอบคอบจะช่วยให้ตั้งราคาขาย คิดแคมเปญหรือโปรโมชันกระตุ้นยอดขายได้อย่างถูกต้อง โดยวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับร้านค้าออนไลน์คือการคำนวณจุดคุ้มทุน (Break Even Point) เพื่อหาจำนวนที่ต้องขายของออนไลน์ให้ได้กำไรและคุ้มกับทุนที่ลงทุนไป

การเลือกบริษัทขนส่ง

เนื่องจากขนส่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อบริการของร้านค้าอย่างมาก จึงควรเลือกบริษัทขนส่งโดยเปรียบเทียบจากความสามารถในการส่งของว่ามีความสะดวกรวดเร็วหรือไม่ มีอัตราค่าขนส่งต่อชิ้นเท่าไหร่ รวมถึงบริการเสริมจากบริษัทขนส่งที่จะอำนวยความสะดวกให้กับทั้งร้านค้าออนไลน์และลูกค้าปลายทาง เช่น บริการรับพัสดุถึงบ้าน การเก็บเงินปลายทาง การเคลมสินค้า หรือเงื่อนไขสินค้าที่สามารถนำขนส่งได้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องเลือกบริษัทขนส่งไว้มากกว่า 1 เจ้า หากเจ้าใดเจ้าหนึ่งเกิดปัญหาหรือมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถส่งสินค้ากับบริษัทขนส่งอีกเจ้าหนึ่งได้ เพื่อให้สินค้าส่งถึงมือลูกค้าได้ไวที่สุด ทั้งนี้ร้านค้าจะต้องมีแผนรองรับความเสียหายที่อาจเกิดจากการขนส่ง เพื่อป้องกันการสูญเสียสินค้าและเงินไปแบบฟรีๆ แถมลูกค้าได้รับของที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์และคะแนนของร้านค้าทั้งสิ้น

เงินลงทุน

ต้นทุนสำหรับการขายของออนไลน์ ไม่ได้มีแค่ตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึง ค่าจัดส่ง ค่าจ้างพนักงาน ค่าโฆษณา ค่าอุปกรณ์อื่นๆ ดังนั้นเงินที่จะนำมาลงทุนจะต้องครบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงเงินทุนสำรองสำหรับหมุนเวียนค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน

หากอยากเริ่มต้นขายของออนไลน์อย่างจริงจัง แต่ยังไม่มีแหล่งเงินทุนสำหรับก่อตั้งธุรกิจ อีกทางเลือกหนึ่งคือการยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อสามารถนำเงินสดมาใช้จ่ายได้เมื่อมีความจำเป็น โดยสามารถยื่นขอได้กับธนาคารหรือผ่านโบรกเกอร์ด้านการเงินที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการยื่นขอสินเชื่อ อาทิ แรบบิท แคร์ ที่มีบริการคัดกรองและเลือกข้อเสนอสินเชื่อส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับสถานภาพทางการเงิน ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางการเงินที่หลากหลาย สามารถขอสินเชื่อเพื่อนำมาลงทุนหรือขยายกิจการของตนเองได้ตามความต้องการ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ rabbit care (https://rabbitcare.com/personal-loan) หรือโทร 1438 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง